ข้อสอบเก่าวิชา JR201

คำสั่งข้อสอบชุดนี้เป็นอัตนัยมีจำนวน 5 ข้อ (ข้อละ 20 คะแนนรวม 100 คะแนน)
ให้นักศึกษาทำทุกข้อยกเว้นนักศึกษาที่ส่งงานฝึกปฏิบัติครบ 3 ชิ้น (คะแนนรวม 40 คะแนน)
และประสงค์จะใช้คะแนนดังกล่าวให้ทำ 1-3 เท่านั้นข้อ

1 ให้นักศึกษาเรียบเรียงข้อมูลข่าวดังต่อไปนี้ในรูปของข่าวประกอบด้วยพาดหัวข่าวโปรยข่าวและเนื้อข่าวตามโครงสร้างของการเขียนข่าวแบบปิรามิดหัวกลับ (Inverted Pyamid) โดยนำเสนอในรูปแบบ Indirected Quote

นายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
กล่าวในคราวการประชุมร่วมกับสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศว่า
"ทางกระทรวงจะเปิดระบายข้าวหอมมะลิเก่าซึ่งข้าวพวกนี้เป็นข้าวคุณภาพ
ในโครงการรับจำนำข้าเปลือกนาปี 2547/48 จำนวนกว่า 4 แสนตันให้กับสนใจผู้ที่
ภายใต้เงื่้อนไขพิเศษคือข้าวที่ไ​​ด้รับประมูลสามารถส่งออกและจำหน่ายภายในประเทศได้ด้วย
ซึ่งเดิมทีตั้งหลักเกณฑ์ว่าผู้ประมูลได้จะต้องนำข้าวไปส่งออกตลาดต่างประเทศเท่านั้น
โดยราคาประมูลจะเสนอราคาเข้ามาเป็นเงินบาทและจะต้องเป็นราคาที่สมเหตุสมผล
แต่ว่าตามเงื่อนไขการประมูลเนี่ยได้มอบหมายให้นายการุสถาพร ณ กิตติ
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปประชุมร่วมกับสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
เพื่อกำหนดแนวทางในการประมูลต่อไปส่วนข้าวหอมมะลิอีก 5 นั้นแสนตัน
ซึ่งเป็นข้าวที่มีการปลอมปนจะต้องระบายออกเช่นกันฉะนั้น
ผมก็ได้สั่งการใหปลัดกระทรวงพาณิชย์และองคการคลังสินค้า (อคส. ) ไปหารือกับ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์เตมียเวสจเรตำรวจแห่งชาติ
ในฐานะประธานคณะกรรมการการตรวจสอบคุณภาพข้าวหอมมะลิในครั้งการรับจำนำข้าเปลือกนาปีฤดูกาล 2547/48
เพื่อจะได้หาวิธีการแก้ไขทางข้อกฎหมายที่จะสามารถระบายข้าวหอมมะลิปลอมปนควบคู่ไปกับการดำเนินคดีทากฏหมายกับโกดังข้าว 57 แห่งที่มีการปลอมปน"นายการุ ณ กิตติสถาพร
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า"เราจะฯ เรียกสมาคม
หารือถึงหลักเกณฑ์ในการประมูลข้าหอมมะลิได้ภายใน 1-2 วันนี้
เนื่องจากว่าเกณฑ์การขายข้าวจะไม่เหมือนกันการประมูลข้าวอย่างที่เคยปฏิบัติมาในอดีต"
2 จงอ่านข่าวด้านล่างต่อไปนี้และทำตามโจทย์ที่กำหนดให้ดังนี้

2.1 เขียนส่วนแบบโปรยข่าวนำเมื่อ

2.2 เขียนพาดหัวข่าว (Headline News)

นายสุรพงษืไพสิฐพัฒนพงษ์โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
กล่าวถึงสถิติการผลิตและส่งออกรถยนต์ในเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2549 ว่าในช่วง 3
เดือนแรกของปีนี้ประเทศไทยผลิตทั้งสิ้นรถยนต์ได้ 3.04 แสนคันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
52,424 คันหรือ 20.80% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 1.41 แสนคันเติบโตเพิ่มขึ้น 51.98%
โดยขณะนี้มีรถยนต์สำเร็จรูปที่ส่งออกแล้วทั้งสิ้น 1.387 แสนคันคิดเป็น 45.56%
ของรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งหมดและส่งออกมากกว่าปีที่แล้ว 51,741 คันเพิ่มขึ้น 59.50% มูลค่าคิดเป็น
61,979.62 ล้านบาทมากกว่าปีที่แล้ว 53.66%

สาเหตุที่การผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกขยายตัวอย่างมากเป็นผลจากการเปิดการค้าเสรี (เอฟทีเอ) 
กับออสเตรเลียทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายเช่นโตโยต้าฮอนด้า
ส่งรถยนต์ไปจำหน่ายในออสเตรเลียได้มากขึ้นนอกจากนี้ค่ายอีซูซุจีเอ็มมิตซูบิชิและฟอร์ด
ได้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยเพื่อการส่งออกอย่างเต็มตัว
รวมทั้งตลาดตะวันออกกลางมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นตามภาวะราคาน้ำมัน
สำหรับรถยนต์นั่งในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ประกอบได้ 74,628 คันคิดเป็น 24.51%
ของรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งหมดและผลิตมากกว่าปีที่แล้ว 9,187 คันเพิ่มขึ้น 14.04%
และผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 51.98% ส่วนรถจักรยานยนต์ช่วง 3 เดือนที่ผ่านผลิตทั้งสิ้น 9,579 ได้
แสนคันมากกว่าปีที่แล้ว 10.34% ขณะที่การส่งออกเครื่องยนต์ชิ้นส่วนรถยนต์อะไหล่รถยนต์
มีมูลค่าการส่งออก 2,111, .85 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 41.25%
ทั้งนี้คาดว่าปีนี้ประเทศไทยจะผลิตรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 1.245 ล้านคันหรือยอดผลิตขยายตัวจากปีที่แล้ว
10% ในจำนวนแบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ 7.2 แสนคันส่งออกต่างประเทศ 5.2 แสนคัน
สำหรับตลาดในประเทศคาดว่าครึ่งปีหลังยอดขายจะเพิ่มขึ้น 55%
เนื่องจาก บริษัท รถยนต์มีแผนแนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด
แม้ว่าราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น
แต่ความต้องการใช้รถของผู้บริโภคยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง




3 จงเขียนบทความแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล (บุคลาทรรศน์) ประกอบด้วย

1 นำ้ความ
2 ส่วนเชื่อม (มีหรือไม่มีก็ได้)
3 เนื้อความ
4 บทสรุป / ความจบพร้อมตั้งชื่อเรื่อง

โดยใช้ประเด็นและข้อมูลข่าวข้างล่างนี้ (กำหนดความยาวไม่น้ยอกว่า 5 ย่อหน้า)

นางจินาวรรณเฮอร์แมนกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแบรนด์เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
ซึ่งตั้งอยู่ที่ย่านประเวศกรุงเทพฯผู้ผลิตเครื่องหนังส่งขายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ
นับเป็นผู้จำรายต้น ๆ ของเมืองไทยที่นำหนังปลานิลมาใช้ในการผลิตเครื่องหนัง
เริ่มทำมาเป็นเวลาปีเศษ ๆ แล้วโดยเริ่มแรกมีผู้นำหนังปลามาเสนอให้ใช้เป็นวัสดุในการผลิต
ด้วยเหตุที่เธอเป็นผู้มีความชำนาญในการทำธุรกิจประเภทนี้มาหลายปีและเคยเห็นว่า
มีคนเคยนำหนังปลานิลมาใช้ทำเป็นของชิ้นเล็ก ๆ อย่างพวงกุญแจ
และด้วยคุณสมบัติพิเศษของหนังปลานิลที่มีลักษณะแปลกกว่าปลาชนิดอื่นคือจะซ้อนกันเป็นชั้น ๆ 
มีความเหนียวด้านจึงได้มีการต่อยอดพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์ให้ออกมาตรงกับความต้องการของตลาด
นางจินาวรรณกล่าวว่าผลิตภัณฑ์หนังปลานิลที่ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์จากมันสมองของเธอ
ส่งผลให้ปัจจุบันผลิตภัณฑ์มีหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือกซื้ออาทิกระเป๋าสตรี
ซึ่งมีทั้งแบบกระเป๋าหิ้วกระเป๋าสะพายและกระเป๋าสตางค์นอกจากนี้เธอยังผลิตรองเท้าสตรีที่เน้นสีสัน
และทรงของแฟชั่นที่ทันสมัย​​รวมไปถึงเข็มขัดกำไลข้อมือและสร้อยคอ
ซึ่งสินค้าแต่ละประเภทล้วนมีสีสันและลวดลายที่สวยงามสะดุดตา
สำหรับกรรมวิธีในการนำหนังปลานิลเข้าสู่กระบวนการฟอกหนัง
โดยใช้น้ำยาเคมีเหมือนกับการฟอกหนังทั่วไปจากนั้นจำไปขึงให้ตึิงแล้วตากจนแห้ง
เมือแห้งแล้วหนังปลาจะกลายเป็นสีเทา -- ดำขั้นต่อไป
เติมสีสันด้วยการพ่นสีตามที่ต้องการและเคลือบแลกเกอร์รอจนแห้ง
ก็จะได้หนังปลาที่สมบูรณ์พร้อมใช้งาน
นางจินาวรรณกล่าวอีกว่าหนังปลาที่ได้นอกจากจะเป็นสีพื้นแล้ว
ยังสามารถเล่นลวดลายและสีสันด้วยการเติมสีเงินหรือสีทองลงไปตามรอยของเกล็ดปลา
และอาจจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวสินค้าด้วยการปักเลื่อมหรือลูกปัดก็ได้ต่อมา
คือขั้นตอนการออกแบบและกำหนดรูปแบบของตัวผลิตภัณฑ์
"ในการออกแบบนั้นดิฉันจะยึดหลักให้ทันกับแฟชั่นคือต้องรู้ว่าช่วงนี้ตลาดต้องการสินค้าแบบไหน
สีอะไรเมื่อออกแบบได้ตามแล้วที่ต้องการ
จึงจะนำหนังปลามาเย็บต่อกันให้เป็นแผ่นตามขนาดและสีที่ต้องการเนื่องจากหนังปลามีขนาดเล็ก
จึงต้องเย็บต่อกันเพื่อให้ได้ขนาดที่เหมาะสมจากนั้น
นำหนังปลาที่เย็บเป็นแผ่นแล้วมาตัดตามแบบและรูปทรงของผลิตภัณฑ์
แล้วเย็บขึ้นรูปตามแบบที่กำหนดไว้ทั้งนี้
ปริมาณหนังปลาที่ใช้ในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับรูปแบบและขนาดของตัวผลิตภัณฑ์
ส่วนระยะเวลาในการทำนั้นชิ้นเล็กประมาณ 1 วันส่นชิ้นใหญ่ 1-2 วัน"นางจินาวรรณกล่าว
เกี่ยวกับยอดขายผลิตภัณฑ์นางจินาว่าวรรณยอมรับ
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หนังปลานิลได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
โดยรองเท้าจำหน่ายราคาคู่ละประมาณ 1,200-2,500 บาทมียอดขายเดือนละ 2,000 คู่
ส่วนกระเป๋าราคาประมาณใบละ 1,500-3,000 บาทยอดขายประมาณเดือนละ 2,000 ใบ

ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบบทความการเขียน
ภูมิปัญญาไทยหรือภูมิปัญยาชาวบ้านถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาชีวิต
ความเป็นอยู่ของประชากรทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจเนื่องจากภูมิปัญญาชาวบ้าน
เกิดขึ้นจากความรอบรู้ประสบการณ์แนวคิดที่ทางสังคมหรือชุมชนได้สืบทอดต่อ ๆ กันมา
ด้วยคนไทย แต่โบราณมีภูมิปัญญาฉลาดล้ำลึกในการประดิษฐ์คิดค้นสร้างสรรค์
เพื่อใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้มแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น
เพื่อการดำรงชีวิตอย่าสุขกายสบายใจโดยเฉพาะภูมิปัญญาด้านปัจจัยพื้นฐานแห่งการดำรงชีพ
ประกอบด้วยความสามารถในการหาอาหารการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย
การคิดค้นประดิษฐ์สิ่งทอเพื่อการนุ่งห่มและความรู้ในการบำบัดรัษาโรคภัยไข้เจ็บ
ซึ่งช่วยให้สังคมไทยนับ แต่อดีตดำรงได้อย่างสงบสุขสืบถึงปัจจุบัน
ภูมิปัญญาเหล่านี้เสริมสร้างคุณลักษณะแก่สังคมไทยให้​​รู้จักการผ่อนสั้นผ่อนยาวผ่อนหนักให้เป็นเบา
ผ่อนร้ายให้กลายเป็นดีมีความมัธยัสถ์อดออมจนเกิดเป็นความมั่งคั่งทางสังคมการเมืองและเศรษฐกิจ
แบบพึ่งพาตนเองได้พอมีพอกินในลักษณะ
สามารนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้เพื่อการพัฒนาประเทศได้อย่างคุ้มค่าที่สุดรวมไปจนถึงมีระบบการจัดการด้านทรัพยากรดินแร่ธาตุป่าไม้แหล่งน้ำประสิทธิภาพอย่างทรง

4 จงอธิบายว่าบทความประเภทบุคลาทรรศน์และบทการบรรณธิ
มีวัตถุประสงค์ในการเขียนเพื่อการสื่อสารเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
5 จงอธิบายว่าบทบรรณาธิการที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร